อาเจ๊เปิดขวดน้ำเต้าหู ยัดขยะในมือลงไป ปิดฝา แล้วโยนลงถัง ขวดใหม่เย็นฉ่ำ เพิ่งซื้อมาตะกี้ ยังไม่ทันได้กิน
การตื่นตั้งแต่ตี 4 ทำให้หมีเป็ดที่ปกติก็สติสตังต่ำอยู่แล้ว อาการหนักกว่าเดิม
เราเดินกลับมานั่งที่โถงด้านหน้าของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานใหญ่ มีเพื่อนนอนหลับบนม้านั่งเล็กๆ อีกมุมของห้อง และเหล่ายุง
ในขณะที่ท้องฟ้าเริ่มสว่างขึ้น เจ้าหน้าที่ของพันทิปและเพื่อนร่วมทริปก็ทยอยมาถึง บางคนคุ้นหน้าจากงานคราวก่อน (พาเปื้อนฮัก ไปพักเมืองเหนือ) เมื่อมีคนมากขึ้น ยุงที่วนเวียนอยู่รอบๆ ผมเมื่อกี้ ก็ลดน้อยลง คิดว่ามันคงกระจายไปชิมอาหารเจ้าอื่นบ้าง
วันที่ 1 ลพบุรี
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานใหญ่
พิกัด
- 13.7493097, 100.5578258
- http://bit.ly/2yq6Zuh
ถึงเวลา พวกเราลงทะเบียน รับของที่ระลึก กินข้าวเหนียวหมูเส้นตามธรรมเนียม ทำพิธีเปิดเล็กน้อย แล้วทยอยกันขึ้นรถตู้
“ว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกก” อาเจ๊ร้องเสียงหลง
เพราะเธอยกกระเป๋าไปชนกับทีวีเครื่องใหญ่จนมันเกือบร่วงลงมาจากขาตั้ง โชคดีที่เพื่อนๆ พุ่งมาจับไว้ก่อนมันจะหล่นกระแทกพื้น ช่วยกันประคองจนกลับขึ้นไปบนขาตั้งอย่างไร้รอยขีดข่วน… ททท. ครับ ถ้าทีวีเครื่องนั้นเปิดไม่ติด ไม่ใช่ความผิดของเราน๊า ^^”
ส่วนอาเจ๊ ระหว่างทางเจ้าจงหลับให้เต็มที่ เพราะจุดหมายต่อไปเธอต้องเจอกับศัตรูคู่แค้นที่ลพบุรี
ศาลพระกาฬ
พิกัด
- 14.8023429!4d100.6150232
- http://bit.ly/2PLmnIm
อื่นๆ
- ศาลพระกาฬอยู่ในระหว่างปรับปรุงพื้นที่ กำหนดเสร็จปลายปี 2561
- ใช้เวลาประมาณ 15 นาที
นี่คือสถานที่ที่แว่นตาของอาเจ๊สละชีพ
…หลังจากไหว้เจ้าพ่อเรียบร้อย อาเจ๊เห็นคุณลุงท่านหนึ่งกำลังปอกขนุนอยู่ทางฝั่งซ้ายเพื่อเป็นอาหารลิง เราอยากเดินไปดูใกล้ๆ แต่ยังไม่ถึงไหน เจ้าจ๋อตัวหนึ่งก็กระโดดลงมาบนไหล่ของเธอ จกแว่น แล้วกระโดดขึ้นหลังคาไปอย่างรวดเร็ว…
ภาพตัดกลับมายังปัจจุบัน
ศาลพระกาฬเวลานี้เต็มไปด้วยกองอิฐกองระเกะระกะ ไม้ใหญ่ถูกตัดแต่งจนร่มเงาหายไป เจ้าลิงจอมป่วนดูเหมือนจะรักษาระยะ ไม่เข้ามาใกล้พวกเรามากนัก อาจเป็นเพราะคนเยอะจนตาลาย
ศาลที่เราเห็นในปัจจุบันนั้น ตั้งอยู่บนรากฐานเดิมที่สร้างขึ้นในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช บนพื้นที่ที่เคยเป็นเทวสถานของขอมอีกทีหนึ่ง ส่วนเจ้าพ่อพระกาฬซึ่งเดิมทีมีสีดำ แต่ถูกปิดทองจนเหลืองอร่ามไปทั้งองค์ เรายังไม่รู้แน่ชัดว่าท่านเป็นพระศิวะ พระวิษณุ หรือพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรกันแน่
พระปรางค์สามยอด
พิกัด
- ตรงข้ามกับศาลพระกาฬ
อื่นๆ
- พระปรางสามยอด ก็ปรับปรุงพื้นที่เหมือนกัน
- ใช้เวลาประมาณ 15 – 20 นาที
เราข้ามไปพระปรางสามยอด ซึ่งก็กำลังปรับปรุงพื้นที่อยู่เช่นกัน เหงื่อไหลจนกางเกงแฉะ ผมต้องใส่เจ้านี่สองวัน แค่นึกก็กลิ่นเค็มๆ ก็โชยมา
พระปรางค์สร้างขึ้นในรัชสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 สถาปัตยกรรมขอม เพื่อเป็นศาสนสถานของพุทธศาสนานิกายมหายาน ภายในมีแท่นคล้ายฐานโยนี แต่จากหลักฐานไม่พบร่องรอยของศิวะลึงค์ในบริเวณนั้น จึงคาดว่าน่าจะเป็นฐานที่ใช้ประดิษฐานพระพุทธรูป หรือรูปเคารพอย่างอื่น
ที่นี่ได้รับการบูรณะและต่อเติมในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช โดยมีการสร้างวิหารขึ้นมาเชื่อมกับพระปรางค์องค์กลาง สถาปัตยกรรมไทยผสมตะวันตก โดยประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัย
ข้างพระปรางค์มีสิ่งก่อสร้างและงานศิลปะฝีมือช่างสมัยรัตนโกสินทร์ แต่ก็โดนลิงป่วนจนสภาพทรุดโทรมลง
เรือนโบราณบ้านสี่ภาค #1
เราแวะมานั่งฟังบรรยายกันโดยนัดหมายที่ตลาดโบราณบ้าน 4 ภาค สั้นกระชับ สนุกสนาน จากนี้เราจะให้เวลาเจ้าตลาดแต่งเนื้อแต่งตัวให้เรียบร้อย แล้วจะกลับมาถ่ายรูปกันตอนเย็น
ร้านฉัตรนารา
พิกัด
- 14.791037!4d100.6514389
- http://bit.ly/2ECA7nv
เวลา
- 10.00 – 22.00
ราคา
- 250 – 500 ต่อคน
ร้านที่กว้างขวางดูแคบลงทันทีที่กองทัพพันทิปเดินทางถึง แต่ร้านจัดการกับคนเยอะๆ ได้ดีมาก
อาหารจานแล้วจานเล่าถูกยกมาเสิร์ฟ จนผมคิดในใจว่ากินไม่ไหวแล้วววว พอแล้ววว พ๊ออออ
ออเดิร์ฟ
ทางร้านคงเตรียมไว้ก่อนที่เราจะไปถึง เย็นแล้ว แต่รสชาติไม่แย่ครับ
ยำถั่วพลู
รสเปรี้ยวหวานนำ และได้ความมันจากกะทิ เผ็ดน้อย ให้หมูมาเยอะ กินเพลิน
ข้าวผัดปู
รสกลมกล่อมกำลังดี ข้าวเม็ดร่วนไม่แฉะ หอมกลิ่นปูด้วย อาเจ๊ชอบมาก
ไข่เจียวหมูสับ
ไข่เจียวมาตรฐาน หมูสับน้อยไปนิด
หลนกุ้ง
เป็นหลนกุ้งผสมหมู หวานนำ หอมมัน กินง่าย
ต้มยำทะเล
เปรี้ยวหวานเผ็ดเค็ม อร่อยครบเครื่อง
ปลากะพงทอดน้ำปลา
ทอดมากรอบนอกนุ่มใน กินกับน้ำราดรสเปรี้ยวหวาน
ปลาหมึกผัดไข่เค็ม
จานนี้มาแปลก แทนที่ไข่เค็มจะถูกตีผสมลงไปในซอสแล้วผัดกับปลาหมึก ร้านนี้เลือกที่จะเอาปลาหมึกไปทอดกรอบ ผัดกับไข่เค็มเป็นลูกๆ ในซอสรสหวาน รสชาติถ่วงกับความเค็มของปลาหมึกและไข่เค็มได้พอดี แต่ควรคลุกก่อนกินครับ เพราะจานที่เราได้ซอสลงไปกองก้นจาน
เป็ดล่อน
เป็ดตุ๋นพะโล้แล้วเอาไปทอดอีกรอบ กรอบนอก เนื้อหนึบๆ สู้ฟัน หอมเป็ดพะโล้ ต้องจับแทะถึงจะสนุก เสิร์ฟกับน้ำจิ้มซีฟู้ดหรือซีอิ้วดำ จานนี้มาตอนที่ผมอิ่มจะแย่ เลยได้แค่ชิมหนึ่งชิ้น ขอโทษนะเจ้าเป็ด แต่เรากินไม่ไหวจริงๆ
พิพิธภัณทสถานแห่งชาติ สมเด็จพระนารายณ์
พิกัด
- 14.7999876, 100.6098258
- http://bit.ly/2CuUrEB
เวลา
- พุธ – อาทิตย์ 9.00 – 16.00
ราคา
- ชาวไทย 30 บาท
- ชาวต่างชาติ 150 บาท
อื่นๆ
- ใช้เวลาที่นี่ประมาณ 2.30 ชั่วโมงครับ
ขนมครก วะฮ่าๆ งานการไม่สนละฮะ ขอแวะกินก่อนนะ ตอนนั้นเองก็มีฝรั่งสองคนเดินมาด้อมๆ มองๆ หน้าแดง ตาหยี เหงื่อแตกเป็นสายน้ำ ผมยื่นขนมของผมให้ลองชิม กินขนมครกร้อนๆ จากเตา แป้งกรอบ กะทิหวานมัน ท่ามกลางอากาศร้อนระอุ ข้างพระราชวังเก่าแก่ นักท่องเที่ยวสองคนนี้จะต้องจำเมืองลพบุรีไปอีกนาน
พระราชวังแห่งนี้ตั้งอยู่บนพื้นที่ 41 ไร่ สร้างโดยวิศวะกรชาวฝรั่งเศสและอิตาลีเพื่อเป็นที่ประทับ ออกว่าราชการ และต้อนรับแขกเมืองของสมเด็จพระนารายณ์
มีลักษณะที่โดดเด่นคือการเจาะช่องไว้บนกำแพงและประตูกว่า 2000 ช่อง ใช้สำหรับวางตะเกียงเพื่อความสว่างยามค่ำคืน เป็นรูปแบบเฉพาะในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช
ต่อมาในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชวังแห่งนี้ได้รับการบูรณะและต่อเติมขึ้นใหม่ ซึ่งปัจจุบันอาคารหลังใหม่กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ที่เก็บโบราณวัตถุน่าสนใจไว้หลายชิ้น และที่สำคัญข้างในติดแอร์ ไชโย!!
โรงแรม O2
พิกัด
- 14.7905624 100.6801835
- http://bit.ly/2q2LPxz
ราคา
- 800 – 1100 บาท
ติดต่อ
โรงแรมใหม่เอี่ยม ห้องกว้างใหญ่ วิวภูเขา มีปลั๊กสามตาประมาณ 6 จุด เตียงแน่นไม่ยวบ และมีหมอนให้สองใบ พร้อมแอร์เย็นๆ หลังจากเดินอาบเหงื่อมาทั้งวันอะไรมันจะฟินกว่านี้ ขอนอนยาวๆ ไปเลยได้ไหม ข้าวเที่ยงก็ยังอยู่เต็มท้อง ข้าวเย็นไม่จำเป็นต้องกินก็ได้
โชคร้ายที่เราต้องรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดไทยเพื่อไปงานเลี้ยงมื้อค่ำ ดังนั้นผมก็ควรลุกจากเตียงแล้วไปอาบน้ำซะที
โรงแรม O2 มีข้อดีแบบที่ผมเล่าไว้ข้างบน แต่ก็มีข้อเสียที่เราไม่ชอบด้วย
หนึ่งคืออ่างอาบน้ำที่ก่อสูงจากพื้นมากไปหน่อย บวกกับความที่ไม่มีม่าน ทำให้น้ำเจิ่งนองหลังอาบน้ำ ก้าวขึ้นก้าวลงต้องระวังมากๆ
สองคืออาหารเช้าที่มีให้เลือกน้อยและเติมช้า แต่เรื่องหลังนี้คิดว่าเมื่ออะไรเข้าที่เข้าทาง โรงแรมน่าจะจัดการได้ดีขึ้นครับ
เรือนโบราณบ้านสี่ภาค #2
พิกัด
- 14.7951221, 100.6293999
- http://bit.ly/2NSmpfN
เวลา
- จันทร์ – ศุกร์ 11.00 – 20.00
- เสาร์ – อาทิตย์ 10.00 – 21.00
เรากลับมาที่นี่อีกครั้ง พบว่าบ้านเรือนไทยสวยงามขึ้นมากเมื่ออยู่ใต้ท้องฟ้าสีม่วงแดงยามเย็น และไฟประดับวิบวับ รวมกับชุดไทยที่ชาวคณะใส่มาร่วมงาน ทำให้รู้สึกเหมือนย้อนเวลาได้จริงๆ
อาเจ๊ในชุดเงาะหัวฟู เดินไปถ่ายรูปร้านโน้นร้านนี้ พร้อมกับชิมอาหารที่ทาง ททท. เตรียมมาให้ไม่อั้น
คืนนั้นเราปิดท้ายด้วยการเล่นเกมสนุกๆ และฟังการเสวนาจากวิทยากร ก่อนกลับไปหลับเป็นตายที่โรงแรม
วันที่ 2 อ่างทอง อยุธยา
ตลาดวิถีชุมชนโคกตูม บ้านดินมดแดง
พิกัด
- 14.8199571, 100.8440869
- http://bit.ly/2qvtlGq
เวลา
- เสาร์ – อาทิตย์ 9.00 – 17.00
ติดต่อ
อื่นๆ
- ใช้เวลาที่นี่ 1 – 2 ชั่วโมงครับ
ทันที่ที่อาเจ๊ได้ดินถุงโต และกระดานไม้สำหรับปั้น เธอก็ตั้งหน้าตั้งตาทำตามที่ครูบอก ค่อยๆ นวด คลึง จนดินเหนียวกลายเป็นเส้นยาว
“แบบนี้เจ๊ไม่เลิกง่ายๆ” ผมคิด เลยขอปลีกตัวไปสำรวจตลาดน่าจะดีกว่า
ที่นี่แบ่งเป็นสามส่วนใหญ่ พื้นที่ด้านหน้ามีร้านขายของและอาหารน่าสนใจ ตรงกลางมีโรงปั้นดินที่อาเจ๊กำลังปลดปล่อยวิญญาณศิลปินอยู่ในขณะนี้
และด้านหลังมีแก๊งลูกหมู ม้าเตี้ยม่อต้อ และอุโมงต้นไม้เขียวขจี
เรามีเวลาที่นี่ไม่มาก ได้ขนมติดไม้ติดมือมาไม่กี่อย่างก็ต้องออกเดินทางซะแล้ววว งอน
ร้านกุ้งเผาทองชุบ
พิกัด
- 14.7514611, 100.4486002
- http://bit.ly/2R5fqSw
เวลา
- ทุกวัน, 9.00 – 19.30
ราคา
- 250 – 1000 ต่อคน
- กุ้งกิโลกรัมละประมาณ 1500 บาท 1 กิโลกรัมได้ 3 ตัว
“เดียวเราจะไปร้านกุ้งเผานะคะ” เจ้าหน้าที่สาวของพันทิปประกาศจุดหมายต่อไป
ผมเก็บขนมที่ซื้อมาตะกี้ลงถุง แล้วดีดความงอนกระเด็นลงข้างทาง
ร้านกุ้งเผาทองชุบเป็นร้านเก่าแก่ของจังหวัดสิงห์บุรี ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ บรรยากาศและการตกแต่งธรรมด๊าธรรมดา แต่เรามาที่นี่เพื่อกินกุ้ง ดังนั้นก็เข้าประจำที่ โต๊ะละ 6 คน แจกจาน ช้อน ส้อมปฏิบัติ!
ยำชะอม
ชะอมทอดกรอบคลุกน้ำยำรสเค็ม หวาน เปรี้ยว เผ็ด ครบเครื่อง พร้อมหมูสับและกุ้งสับอยู่ด้านล่าง
ทอดมันปลา
เนื้อเด้ง ชิ้นโต รสเค็มเผ็ด กินกับน้ำจิ้มรสหวานๆ ลงตัว
ห่อหมก
รสมัน นวลๆ ไม่ไปทางไหนเลย มีกลิ่นเครื่องแกงอ่อนๆ ส่วนผสมเท่าที่รู้คือ ไข่ ปลา และก้างปลาให้ติดฟันเล่นๆ
ต้มยำ
ลูกชิ้น(น่าจะ)ปลากลายเนื้อแน่น รสเปรี้ยวเค็มนำ เผ็ดนิดๆ ซดสดชื่น
หมูแดดเดียว
หมูหนึบๆ รสหวาน ได้ออกแรงเคี้ยว
ขนมจีบ
ลูกยักษ์ เนื้อเนียน รสหวานนำ กินคู่ผักชีตัดเลี่ยนได้ดี
กุ้งเผา
ปิดท้ายด้วยท่าไม้ตาย กุ้งเนื้อเนียนเด้ง หวาน หอมมันกุ้ง ตัวโตสะใจ
ต่อจากนี้เราจะไปชิม “ตาลพับ” ขนมหากินยาก เจ้าเดียวในอ่างทอง ไปอุยธยาไนท์มาเก็ต และตามด้วยร้าน De Riva Ayothaya กินแหลกขนาดนี้ นี่มันทริปขุนหมูชัดๆ
ทำขนมตาลพับ
พิกัด
- แม่ค้าขายอยู่ที่ตลาดวิเศษชัยชาญครับ
- 14.594529, 100.3550501
- http://bit.ly/2qedQSR
“โฮ่ เจ้าวัว เป็นไงมั่ง” ผมกับอาเจ๊พยายามส่งกระแสจิตคุยกับวัว
ตรงข้ามคอกวัวคือบ้านของพี่นงนุช แม่ค้าขายขนมตาลพับเจ้าเดียวในอ่างทอง ตั้งอยู่ริมถนนเล็กๆ ในหมู่บ้านที่ผมก็ไม่ทราบชื่อ
“เดี๋ยวพี่เค้าจะสาธิตวิธีทำขนมนะคะ มาดูกันได้” เจ้าหน้าที่จากททท.ประกาศ
เรากลับหลังหันตามเสียง เหวอออ คนเต็มบ้านแล้วอ๊ะ
“เฮ้ย ไอ้วัว ไม่เตือนกันเลย” ผมส่งกระแสจิตเข้มข้นใส่วัวเป็นครั้งสุดท้าย
ก่อนจะพยายามแทรกทางโน้นทางนี้ หลบไปเข้าหลังบ้าน ก็ได้มุมไม่ถูกใจ โชคดีที่พี่นงนุชทำขนมไปเรื่อยๆ คนเริ่มซา เลยพอจะได้รูปติดไม้ติดมือมาบ้าง
ใครที่อยากชิมขนมตาลพับ ตามหาแม่ค้าได้ที่ตลาดวิเศษชัยชาญจ้า
วัดม่วง
พิกัด
- 14.593433, 100.3777483
- http://bit.ly/2D9G89V
อื่นๆ
- ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
วัดม่วง สถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อของอ่างทอง อันที่จริงมันไม่ได้อยู่ในแผนการเดินทางตั้งแต่แรก แต่ทางททท.เห็นว่าอยู่ใกล้กับบ้านพี่นงนุช เลยแถมให้ด้วย
หลวงพ่อใหญ่ หรือพระพุทธมหานวมินทร์ศากยมุนีศรีวิเศษชัยชาญ พระพุทธรูปสีทองที่สร้างชื่อเสียงให้วัดม่วง มีความสูงถึง 95 เมตร กว้าง 63 เมตร สร้างเพื่อถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 จัดว่าเป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่สุดองค์หนึ่งของโลก
เราเห็นหลวงพ่อตั้งแต่ไกล เพียงแต่แทนที่องค์พระจะเป็นสีทอง กลับกลายเป็นสีเทาปูนเปลือย ล้อมรอบไปด้วยนั่งร้าน หลายคนคงเห็นภาพ “เบื้องหน้า” คือพระพุทธรูปองค์ใหญ่สีทองกันมาเยอะแล้ว เราเลยขอเก็บภาพ “เบื้องหลัง” ระหว่างการบูรณะ ซึ่งไม่ได้หาดูกันง่ายๆ มาฝากฮะ
เดินต่ออีกหน่อย เราพบรูปปั้นจากเรื่องราวในวรรณคดี ความเชื่อ ประวัติศาสตร์ เปรตตัวสูงโย่งและท่านยมบาล พร้อมคติสอนใจ พระอุโบสถที่กำแพงสร้างเป็นกลีบดอกบัว
และที่สวยงามประทับใจคือวิหารแก้วที่ตกแต่งด้วยกระจกเงา ซึ่งทำให้เกิดภาพลวงตาจากภาพที่สะท้อนไปมา
โรงแรม Kantary พระนครศรีอยุธยา
พิกัด
- 14.345789, 100.6069887
- http://bit.ly/2JjE6nC
เวลา
- 24 ชั่วโมง
ราคา
- 2800 – 3500 บาท
ห้องกว้างใหญ่ เงียบสงบ มีปลั๊กสามตากระจายอยู่ตามมุมต่างๆ 2 – 3 จุด สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน สระว่ายน้ำ ห้องออกกำลัง เลาจน์สำหรับแขกของโรงแรม และบุฟเฟ่ต์อาหารเช้าที่หมีเป็ดคิดถึง
เราวางกระเป๋า อาเจ๊เข้าไปอาบน้ำ แล้วผมก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดเพลง Simplify ของคณะ Young The Giant
อุยธยาไนท์มาเก็ต
พิกัด
- 14.3486591, 100.5607494
- http://bit.ly/2yCaJJ3
เวลา
- ศุกร์ – อาทิตย์, 16.00 – 22.00
รถมินิบัสของเราเคลื่อนตัวไปตามถนนเล็กๆ สองข้างทางเต็มไปด้วยรถยนต์ของนักท่องเที่ยว ไร้วี่แววของที่จอด
ผมเห็นฟ้าแลบหนึ่งครั้ง ได้แต่ลุ้นว่ามันจะไม่แลบถี่ขึ้น และเมฆจะไม่กลั่นตัวเป็นหยดน้ำ และเชื้อราจะไม่งอกงามที่เลนส์ของผมอีก
เราได้เดินเล่นที่เป็นเวลาสั้นๆ ก่อนต้องกลับจุดนัดพบ เพื่อให้มินิบัสโฉบมารับ พาเราเดินทางต่อ
ผมสำรวจตลาดได้แค่ครึ่งเดียว แต่ก็พบว่าที่นี่น่าสนใจกว่าที่คิด พ่อค้าแม่ค้าแต่งชุดไทย ยิ้มแย้ม มีอาหารให้เลือกชิมหลากหลาย บางอย่างหาได้ทั่วไป บางอย่างหากินยาก ราคาสูสีกับตลาดนัดในกรุงเทพ ถือว่าเป็นจุดที่น่าแวะมาเที่ยวครับ
ฟ้าแลบอีกหลายครั้ง เมฆก้อนอ้วนๆ อยู่ไม่ไกล แต่ตอนนี้ผมกลับมายืนที่จุดนัดพบ รถของเราใกล้เข้ามา ดังนั้นไม่ต้องห่วงนะเจ้าเลนส์ คราวนี้ราจะไม่ขึ้นแก
ร้าน De Riva Ayothaya
พิกัด
- 14.3407205, 100.5496618
- http://bit.ly/2O8N2Nx
เวลา
- 11.00 – 23.00
ราคา
- 250 – 500 ต่อคน
ร้านริมแม่น้ำ ตกแต่งด้วยโคมไฟสวยงาม ฝั่งตรงข้ามเห็นวัดนักบุญยอเเซฟที่ค่อยๆ เปลี่ยนสีไปเรื่อยๆ คล้ายไฟ LED บางครั้งก็มีเรือลำเล็กแล่นผ่านไปเงียบๆ ไม่รีบร้อน
อาหารบนโต๊ะในคืนนี้น่ากิน แต่ไม่ทำให้ผมกับอาเจ๊ตื่นเต้น เพราะตั้งแต่เช้าจนถึงตอนนี้ กินไปแล้วนับไม่ถ้วนฮะ
แกงเลียง
เผ็ดร้อน เค็มหวานสูสีกัน มีกลิ่นกะปิอ่อนๆ ไม่นัวเข้มข้น ได้กินผักเพิ่มไฟเบอร์บ้างก็ดีเหมือนกัน
กระหล่ำปลีผัดน้ำปลา
น้ำมันท่วม ไม่หอมกระทะ รสอ่อนมากจนเราแทบไม่รู้สึก ไม่ค่อยชอบครับจานนี้
ห่อหมกทะเลมะพร้าวอ่อน
รสกลมกล่อมหอมมัน กุ้งตัวอ้วน ปลาหมึกเด้ง ใช้ได้ฮะ
ปลากะพงสองใจ
ปลาทอดมาดีมาก ราดด้วยซอสสองสไตล์ ด้านหนึ่งเป็นแบบเปรี้ยวหวาน ด้านหนึ่งเป็นพริกไทยดำ จานนี้อร่อยที่สุดบนโต๊ะ
หลนปู
รสหวานนำ ส่วนตัวคิดว่าน้ำใสไปนิดครับ
หมูผัดใบยี่หร่า
มีกลิ่นหอมเครื่องเทศ เผ็ดทะลุโลกจนจับรสอื่นไม่ได้ เป็นเมนูที่ทั้งโต๊ะยกธงขาวเพราะกินไม่ไหว
บัวลอย 3 สี
หอมหวาน เค็มปะแล่ม แป้งนุ่มหนึบดีงาม ช่วยลดพลังทำลายล้างของหมูผัดใบยี่หร่าได้ดีมาก
สละลอยแก้ว
เปรี้ยวหวานเค็มนิดๆ ชื่นใจ
มื้อคำของวันนี้จบลงอย่างรวดเร็ว กินอิ่ม แยกย้ายกันขึ้นรถ
ขากลับเราผ่านอยุธยาไนท์มาเก็ต ฝนที่ตกปรอยๆ ลดความคึกคักของมันลงนิดหน่อย
วันที่ 3 อยุธยา
ผมยังโดนหมูผัดใบยี่หร่าที่กินไปเมื่อคืนแผลงฤทธิ์แสบๆ คันๆ ใส่ทางเดินอาหาร ส่วนอาเจ๊พลังเต็มเปี่ยม พร้อมฟาดฟันอาหารเช้า หมีเป็ดเดินทัพถึงสนามรบ พบว่าทหารกล้ากำลังห้ำหั่นกับข้าศึกอย่างดุเดือด อาเจ๊เข้าโจมตีมุมไข่ด้านในสุด ตามมาด้วยชีส โยเกิร์ต เบเกอรี่ทางกราบซ้าย และซุ้มอาหารหลักตรงกลาง
แต่ข้าศึกจำนวนมากเหลือเกิน และเราก็ได้รับบาดเจ็บที่ท้องจนบวมเป่ง แม่ทัพส่งสัญญาณว่าอีกหนึ่งชั่วโมงต้องถอยจากที่นี่ เราจึงถอนตัวกลับฐาน เก็บสัมภาระ
บ้านฮอลันดา
พิกัด
- 14.3405048, 100.5772336
- http://bit.ly/2CJW69n
เวลา
- พุธ – อาทิตย์, 9.00 – 16.00
ราคา
- เข้าฟรี (จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง)
อื่นๆ
- ใช้เวลาประมาณ 40 นาที
ชาวฮอลันดาเข้ามาทำการค้ากับอยุธยาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2145 ในนามของบริษัทอินเดียตะวันออกของฮอลันดา หรือ Verenigde Oost-Indische Compagnie หรือ VOC และจุดที่เรายืนอยู่ เคยเป็นที่ตั้งของ VOC สำนักงานใหญ่ประจำประเทศไทย
VOC ไม่ใช่แค่ชื่อบริษัท แต่เป็นนวตกรรมการลงทุนสุดล้ำในสมัยนู้น เดิมทีพ่อค้าแต่ละคนจะนำเรือของตนล่องไปค้าขาย ซึ่งถ้าประสบความสำเร็จก็ทำกำไรมหาศาล แต่ถ้าเรือล่มหรือโดนปล้นก็ถึงขั้นล้มละลาย จึงมีแนวคิดใหม่ คือการระดมทุนแล้วแต่งตั้งเรือออกไปค้าขาย ผู้ลงทุนจะได้เงินส่วนแบ่งถ้าประสบความสำเร็จ ถ้าล้มเหลวก็ไม่เจ็บตัวนัก พูดได้ว่านี่เป็นรูปแบบแรกสุดของการซื้อขายหุ้นนั่นเอง
พิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่ในอาคารทรงยุโรปสวยงามที่สร้างขึ้นใหม่ ชั้นสองมีข้าวของจัดแสดงและข้อมูลให้อ่าน
ชั้นล่างมีร้านกาแฟ ด้านหลังเป็นแม่น้ำ ซึ่งสมัยก่อนคงมีเรือของ VOC จอดเทียบท่า ขนส่งสินค้าอย่างคึกคัก ส่วนพื้นอิฐที่เราเห็นด้านหน้า เป็นที่ตั้งของอาคารหลังเดิม ซึ่งถูกทำลายลงตั้งแต่สงครามเสียกรุงครั้งที่สอ
หมู่บ้านญี่ปุ่น
พิกัด
- 14.3327633, 100.5775487
- http://bit.ly/2Ayx4ss
เวลา
- ทุกวัน, 8.30 – 17.00
ราคา
- บุคคลทั่วไป 50 บาท
- นักศึกษา 20 บาท
อื่นๆ
- ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
นี่คือบริเวณที่ชาวญี่ปุ่นอาศัยอยู่รวมกันนับพันคนในอดีต ทั้งทหารรับจ้าง พ่อค้า และชาวญี่ปุ่นที่นับถือศาสนาคริสต์ เดินทางมาอยุธยาเพราะเสรีภาพทางการนับถือศาสนา ตั้งอยู่ติดกับหมู่บ้านฮอลันดา ข้ามไปอีกฝั่งของแม่น้ำคือหมู่บ้านของชาวโปรตุเกส
บุคคมีชื่อเสียงที่เราน่าจะรู้จักกันดีอย่างเท้าทองกีบม้า ลูกครึ่งญี่ปุ่น-โปรตุเกส ก็มีเรื่องราวผูกพันธุ์กับหมู่บ้านญี่ปุ่นแห่งนี้
อีกท่านที่สำคัญไม่แพ้กันคือ ยามาดะ นางามาซะ เป็นคนหามเกี้ยวจากแดนอาทิตย์อุทัย ตั้งใจมาแสวงโชคที่แผ่นดินสยาม ได้รับราชการ และทำความดีชอบกระทั่งได้เป็นถึงออกญาเสนาภิมุขในรัชกาลของพระเจ้าทรงธรรม มีทหารในการดูแล 800 นาย และช่วยปราบกบฏหลายครั้ง
ถึงแม้ว่าทุกวันนี้จะไม่เหลือร่องรอยของบ้านเรือนของชาวญี่ปุ่นให้เห็นอีกแล้ว แต่ที่นี่ก็จัดว่าเป็นสวนสวย มีชุดยูกาตะให้เช่าถ่ายรูปเก๋ๆ กับบางมุมที่ไม่บอกไม่รู้ว่าอยู่เมืองไทย และมีพิพิธภัณฑ์เล็กๆ ให้ชม ร้านกาแฟริมน้ำ
ในวันเสาร์-อาทิตย์ คุณอาจเจอฟู้ดทรัคขายอาหารญี่ปุ่นอีกด้วย
ร้านครัวแตน
พิกัด
- 14.3602319!4d100.592021
- http://bit.ly/2RmxmIs
เวลา
- 10.00 – 17.30
ราคา
- 250 – 500 ต่อคน
ร้านสุดแสนโลว์โปรไฟล์ ไม่มีอะไรสะดุดตา ภายในให้ความรู้สึกแบบกินข้าวในโรงอาหาร คือเป็นอาคารโปร่ง มีหลังคา แต่ไม่มีกำแพง มีโต๊ะไม้สีเข้มตั้งอยู่อย่างเป็นระเบียบ อาหารวางไว้บนโต๊ะอยู่แล้ว เมื่อเราไปถึง
แสร้งว่ากุ้ง
อาหารโบราณหากินยาก เปรี้ยว เค็ม มัน เผ็ดนิดๆ แทบไม่มีรสหวาน หอมกุ้ง อร่อย กินกับผักก็เข้ากันดีครับ
ไก่ทอดกระเทียม
ทอดสไตล์แห้งๆ เค็มนำ ส่วนตัวผมไม่ชอบไก่สับแบบนี้ เพราะต้องคอยระวังไม่ให้เศษกระดูกติดฟัน
ผัดเผ็ดกระดูกอ่อน
มีความเครื่องแกงอินเดียหอมๆ รสเค็มเผ็ด หวานน้อย กินกับข้าวสวยอุ่นๆ อร่อยสะใจ
คะน้าปลาเค็ม
เมนูที่เราคุ้นเคยกันดี แต่ร้านนี้มีสูตรพิเศษไม่เหมือนใคร คือแทนที่จะเป็นคะน้าผัดมาน้ำขลุกขลิก กลายเป็นคะน้าที่ผัดกับเห็ดหอมอย่างแห้งๆ โรยด้วยปลาเค็มกับกระเทียมเจียว รสเค็มหวาน หอมปลาเค็ม อร่อยชมัด
แกงเขียวหวาน
อ๊ะ ไอ้เจ้าแกงสีส้มๆ นี่คืออะไร ทุกคนบนโต๊ะสงสัย จนกระทั่งผู้กล้าของเราลองชิมดู
“อ้อออออออ แกงเขียวหวาน” เธอพูด
รสหวานเค็มเผ็ด หอมเครื่องแกง ไก่นุ่ม อร่อยมาตรฐานครับ ไม่ว่ามันจะใช่แกงเขียวหวานหรือไม่ เราก็ลงความเห็นไปแล้วว่ามันคือแกงเขียวหวานสีส้ม!
สายบัวผัดกุ้ง
สายบัวกรอบกินง่ายรสหวานนำ ไม่เหม็นเขียว หอมมันกุ้ง
ครัวแตนไม่ใช่ร้านที่อาหารอร่อยจัดทุกเมนู ไม่ใช่ร้านที่บรรยากาศดีสุดๆ อันที่จริง มันต้องพึ่งพาธรรมชาตินิดหน่อย ว่าจะหอบลมอุ่นหรือลมเย็นให้ผ่านอาคารโล่งๆ แต่อาหารมีเอกลักษณ์และบางเมนูหากินยากครับ
ศูนย์ศิลปาชีพระหว่างประเทศ
พิกัด
- 14.1495802, 100.5233628
- http://bit.ly/2zj3aqf
เวลา
- ทุกวัน 8.00 – 17.00
อื่นๆ
- ใช้เวลาที่นี่ประมาณ 2 – 2.30 ชั่วโมง
นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ผมเข้าใจผิดว่าเป็นศูนย์ศิลปาชีพบางไทร แต่ความจริงเป็นคนละสถานที่ครับ แค่ชื่อคล้าย และตั้งอยู่ใกล้กัน
ภายในประกอบด้วยร้านค้า ร้านกาแฟ และห้องนิทรรศการ 6 ห้อง แต่ละห้องมีเรื่องราวต่างกัน เช่น ห้องที่เกี่ยวกับพระราชกรณียกิจด้านศิลปาชีพของในหลวงรัชกาลที่ 9 และพระราชีนิ มีภาพหาดูได้ยากของทั้งสองพระองค์ ห้องจัดแสดงผ้าไทย ห้องจัดแสดงเครื่องทองไทย และอื่นๆ บางมุมถ้ามีแสงเพิ่มขึ้นซักหน่อยจะสวยกว่านี้มาก
ถึงมันจะโบร่ำโบราณ บางอย่างก็ไม่มีใครนิยมกันแล้ว แต่นั้นคือรากฐานเติบโตแตกกิ่งก้าน และออกผลที่ “หอนวัตศิลป์” ซึ่งประยุกต์งานศิลปะแบบไทยๆ ออกมาเป็นงานดีไซน์สวยเรียบ ทันสมัย น่าหอบกลับบ้านมาก
เดินทางกลับบ้าน
จบจากศูนย์ศิลปาชีพระหว่างประเทศ เราทยอยกันขึ้นรถ จะได้กลับบ้านซะที หนังกำลังจะจบ ทุกอย่างราบรื่น จนกระทั่งถึงทางแยกขึ้นทางด่วน รถของเราก็เลี้ยวไปผิดทาง!! รถตู้นำขบวนของททท ตาไวมาก เบรคเอี๊ยด เจ้าหน้าที่สาวกระโดดลงมาเต้นแร้งเต้นกา
“หยู๊ดดดดดด หยู๊ดดดดดด หยุด (โว้ยยย)” ผมเดาว่าเธอคงคิดแบบนั้น
เร็วไม่แพ้กัน เจ้าหน้าที่หนุ่มกระโดดจากรถตู้ วิ่งข้ามถนนฝ่าการจราจรอย่างคล่องแคล่ว แล้วกระโดขึ้นมาบนรถของเราเพื่อนำทาง เท่าที่รู้ พ่อหนุ่มคมเข้มคนนี้ไม่สบายตั้งแต่เช้า เสียงแหบ ไอบ่อย หลังจากแพร่เชื้อบนรถตู้ไปแล้ว เค้าก็ตั้งใจมาแพร่เชื้อใส่รถคันนี้ให้ป่วยตามๆ กันไป…
ไม่ช๊ายยยย ขนาดป่วยไข้ขึ้น ก็ยังตั้งใจนำทาง พาลูกแกะหลงทางกลับบ้านได้อย่างปลอดภัย ขอบคุณมากคร้าบ
ค่าใช้จ่าย
จงคำนวณรายจ่ายด้วยวิธีการเดา…อย่างมีหลักการ
ถ้าขับรถไปเอง ค่าเชื้อเพลิงไม่น่าเกิน 1500 บาท
ค่าที่พักต่อคืน แบบประหยัดไม่น่าจะเกิน 800 บาท แต่ถ้ามีกำลัง พัก Kantary ซักคืนนะครับ ของเค้าดีจริง
ค่าอาหารต่อคน 900 – 1500 บาท
ค่าเข้าสถานที่ท่องเที่ยวต่อคน ไม่เกิน 100 บาท
สามวันสองคืน สามจังหวัด รวมทั้งสิ้น 4100 บาทคร้าบบ
สรุป
ผมเคยเที่ยวลพบุรีเมื่อประมาณสองปีก่อน ตอนนั้นรู้สึกยังไง ตอนนี้ก็รู้สึกอย่างนั้น คือนี่เป็นจังหวัดที่เจ๋งมาก ฟ้าสวย โบราณสถานน่าสนใจ อาหารอร่อย น่าเสียดายที่เวลาเปิดปิดของสถานที่ท่องเที่ยวไม่เป็นมิตรกับนักท่องเที่ยวเท่าไหร่ เปิดสาย ปิดเร็ว ขยายเวลาเปิดปิดได้อีกนิด ให้ผมได้ถ่ายรูปโบราณสถานกับฟ้าสวยๆ ตอนเย็นบ้างเถอะครับ ได้โปรด T^T
อ่างทอง ผมรู้สึกว่าไม่ได้สัมผัสจังหวัดนี้เท่าไหร่ งดออกความเห็นจ้า
อยุธยา ยอมรับว่าผมไม่เคยเที่ยวจังหวัดนี้อย่างใส่ใจเลยครับ ได้แต่ขับรถผ่านไปมา แต่ทริปนี้ทำให้ผมรู้สึกว่ามีของดีใกล้ตัวขนาดนี้ ทำไมไม่ไปเที่ยวซะตั้งนานแล้วนะ
ท้ายสุด ททท. และ Pantip.com เป็นเจ้าภาพที่น่าประทับใจ อิ่มท้อง สะดวกสบายทั้งการเดินทาง และที่พัก ขอบคุณมากๆ ครับ
อ้างอิง
https://www.silpa-mag.com/club/art-and-culture/article_6225
https://www.silpa-mag.com/club/miscellaneous/article_14062
https://thai.tourismthailand.org
หมีเป็ด คือ นักออกแบบเกมและนักวาดภาพประกอบ ที่ออกเดินทางแบบกล้าๆ กลัวๆ สนใจการฝึกสติและพัฒนาตัวเอง พอๆ กับใจอาหารริมทาง ปัจจุบันมีผู้ติดตามบน Facebook กว่า 160,000 คน